วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551
วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
Lineage II : Dark Elf 1/6 Scale Resin Cast kit (4)
ตอนสุดท้ายสำหรับขั้นตอนการทำ Dark Elf ครับ.
Step 10. ในส่วนบริเวณต้นขา ใช้สีเงินเบอร์ 8 + สีดำเงาเบอร์ 2 ในอัตราส่วน 80:20 ทาให้ทั่วตามลายโดยดูจากรูปข้อมูลที่มี หลังจากเสร็จแล้ว จึงเติมสีเงินเบอร์ 8 เพิ่มลงไปอีกสัก 15% แล้วทาเน้นเฉพาะบริเวณสันนูนอีกครั้ง เพื่อเพิ่มมิติสว่าง เช่นเดียวกันอาจเติมสีดำเงาเบอร์2 ลงไปเพิ่มอีกสัก 15%(จากสีเดิมตอนแรก) แล้วทาบริเวณร่องลึกเพื่อเน้นมิติสีที่เข้มเข้าไปอีกก็ได้.
Step 10. ในส่วนบริเวณต้นขา ใช้สีเงินเบอร์ 8 + สีดำเงาเบอร์ 2 ในอัตราส่วน 80:20 ทาให้ทั่วตามลายโดยดูจากรูปข้อมูลที่มี หลังจากเสร็จแล้ว จึงเติมสีเงินเบอร์ 8 เพิ่มลงไปอีกสัก 15% แล้วทาเน้นเฉพาะบริเวณสันนูนอีกครั้ง เพื่อเพิ่มมิติสว่าง เช่นเดียวกันอาจเติมสีดำเงาเบอร์2 ลงไปเพิ่มอีกสัก 15%(จากสีเดิมตอนแรก) แล้วทาบริเวณร่องลึกเพื่อเน้นมิติสีที่เข้มเข้าไปอีกก็ได้.
Step 10-1. นำสีทองเบอร์ 9 มาทาแต้มบริเวณที่กำหนดว่าเป็นสีทองเพิ่มเติม ในกรณีที่บริเวณนั้นมีพื้นที่กว้างควรใช้วิธีบังเทปแล้วพ่นจะทำให้งานดูเรียบร้อยขึ้น.
Step 11. หลังจากนั้นก็ทำการเขียนตาและคิ้วให้เรียบร้อย สีของตาใช้เบอร์34 ผสมขาวสักเล็กน้อย ขั้นตอนนี้ต้องใจเย็นสักหน่อยนะครับ.
Step 12. ในส่วนของดาบใช้สีเงินเบอร์ 8 พ่นให้ทั่ง แล้วทาเก็บลายด้วยสีดำเบอร์ 92
หลังจากนั้นทำการพ่นเคลือบเงาโดยทั่วของชุด เพื่อป้องกันการหลุดลอกง่ายของสีทอง แต่การเคลือบเงานั้นจะทำให้สีทองและเงินหมองลงไปจากเดิม ดังนั้นถ้าอยากให้สียังดูสดเป็นประกายอยู่ก็ต้องแต้มเพิ่มบางๆตามลายเดิมอีกครั้ง. เสร็จแล้วตรวจเช็คความเรียบร้อยของชิ้นงานทั้งหมดเพื่อเตรียมประกอบ.
หลังจากนั้นทำการพ่นเคลือบเงาโดยทั่วของชุด เพื่อป้องกันการหลุดลอกง่ายของสีทอง แต่การเคลือบเงานั้นจะทำให้สีทองและเงินหมองลงไปจากเดิม ดังนั้นถ้าอยากให้สียังดูสดเป็นประกายอยู่ก็ต้องแต้มเพิ่มบางๆตามลายเดิมอีกครั้ง. เสร็จแล้วตรวจเช็คความเรียบร้อยของชิ้นงานทั้งหมดเพื่อเตรียมประกอบ.
วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2551
Lineage II : Dark Elf 1/6 Scale Resin Cast kit (3)
มาดูขั้นตอนต่อไปสำหรับ การทำ Dark Elf เป็นตอนที่3 ครับ.
Step 9. หลังจากที่ทาเก็บในส่วนสีทองของชุดเรียบร้อยแล้ว ก็นำสีขาวเบอร์ 1 ทาให้ทั่วบริเวณในส่วนที่เป็นร่องเนื้อของชุด เพื่อเป็นการรองพื้นก่อนทำสีเนื้อ.
Step 9-3. หลังจากนั้นจึงนำสีเก่า(น้ำเงิน+ดำ) ที่เคยใช้การทาเก็บชุด มาทาเก็บอีกครั้งให้เรียบร้อย.
Step 9. หลังจากที่ทาเก็บในส่วนสีทองของชุดเรียบร้อยแล้ว ก็นำสีขาวเบอร์ 1 ทาให้ทั่วบริเวณในส่วนที่เป็นร่องเนื้อของชุด เพื่อเป็นการรองพื้นก่อนทำสีเนื้อ.
Step 9-1. แล้วจึงนำสีเนื้อเดิมที่ใช้สำหรับทำร่องเข้มหรือไฮไลท์ในขั้นตอนที่ผ่านมา ทาทับสีขาวอีกครั้งโดยเน้นให้เป็นน้ำสี(ผสมทินเนอร์ให้ค่อนข้างใส).
Step 9-3. หลังจากนั้นจึงนำสีเก่า(น้ำเงิน+ดำ) ที่เคยใช้การทาเก็บชุด มาทาเก็บอีกครั้งให้เรียบร้อย.
วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2551
Lineage II : Dark Elf 1/6 Scale Resin Cast kit (2)
มาสานต่อ Dark Elf ครับ หลังจากทำค้างไว้ร่วม 4 เดือน
Step 4. หลังจากพ่นสีขาวเพื่อรองพื้นในส่วนที่เป็นเนื้อเรียบร้อยแล้ว ก็นำสีขาวด้านเบอร์ 62 มาผสมกับสีเทาเบอร์ 11 ในอัตราส่วน 60 : 40 ผสมทินเนอร์ให้สีออกใสสักเล็กน้อย
แล้วใช้พู่กันทาเฉพาะตามร่องผมต่างๆให้ทั่ว รวมทั้งชิ้นผมหน้าด้วย.
แล้วใช้พู่กันทาเฉพาะตามร่องผมต่างๆให้ทั่ว รวมทั้งชิ้นผมหน้าด้วย.
Step 4-1. หลังจากทาเสร็จแล้วให้นำสีขาวด้านเบอร์62มาผสมกับสีขาวมันเบอร์1
และสีเทาเบอร์11 ในอัตราส่วน 40:40:20 แล่วจึงพ่นคลุมในส่วนผมให้ทั่ว
รวมถึงผมหน้าด้วย โดยพ่นแบบโอเวอร์สเปรย์ คือพ่นบางๆแต่ครอบคลุมให้ทั่ว.
และสีเทาเบอร์11 ในอัตราส่วน 40:40:20 แล่วจึงพ่นคลุมในส่วนผมให้ทั่ว
รวมถึงผมหน้าด้วย โดยพ่นแบบโอเวอร์สเปรย์ คือพ่นบางๆแต่ครอบคลุมให้ทั่ว.
Step 4-2. หลังจากนั้นนำสีเดิมที่พ่นมาผสมสีขาวมันเบอร์1 เพิ่มเข้าไปอีกประมาณ 30% ผสมทินเนอร์ให้สีใสสักเล็กน้อย แล้วจึงนำมาแต้มในส่วนสันนูนของผม (พยายามไม่ไห้โดนร่องผมที่มีสีเข้ม) เน้นการแต้มแบบป้ายพู่กัน โดยป้ายสีให้ไปทางเดียวกันกับทางผม (อย่าป้ายสีตามขวางทางของผม)
หลังจากนั้นใช้สีขาวเบอร์1 ผสมสีให้ใสเล็กน้อยแต้มเพิ่ม
ในบางจุดที่เน้นเป็นจุดสันนูนที่สุดของผม เพื่อให้เป็นสีผมในส่วนที่สว่างที่สุด.
และเช่นเดียวกันผสมสีเดิมที่เป็นสีผมหลักให้เข้มโดยการเติมสีเบอร์11
ลงไปพร้อมแต้มในจุดที่เป็นร่องลึกที่สุด เพื่อที่จะได้เป็นสีผมในมิติที่มีส่วนลึกที่สุด
เมื่อสีแห้วสนิทดีแล้วจึงทำการบังเทปบริเวนผมทั้งหมด เพื่อเตรียมการพ่นสีเนื้อต่อไป.
Step 5. นำสีเนื้อเบอร์ 51 กับสีเนื้อเบอร์ 111 และเคลียร์ส้มเบอร์49 มาผสมกันในอัตราส่วน 30:65:5 และผสมทินเนอร์ให้สีมีลักษณะใสพอสมควร แล้วจึงนำไปพ่นรีดในร่องลึกต่างๆในส่วนที่เป็นเนื้อ เสร็จแล้วจึงพ่นแบบโอเวอร์สเปรย์ทับในส่วนสีเนื้อทั้งหมดอีกครั้ง.
Step 5-1. เติมสีเคลียร์ส้มเบอร์49 ทีละน้อยในสีเนื้อเดิมแล้วทดลองพ่นแบบโอเวอร์สเปรย์คลุมทั่วๆ ในส่วนที่เป็นเนื้อทั้งหมด ทำซ้ำจนสีเนื้อได้น้ำ้หนักจนเป็นที่พอใจ อาจมีการพ่นเน้นเฉพาะในส่วนลึกเพื่อช่วยให้น้ำหนักเข้มชัดขึ้น และอาจพ่นให้โดนในส่วนสันนูนให้น้อยเื่พื่อสร้างน้ำหนักสว่างไปในตัวได้ในขั้นตอนนี้.
Step 6. เมื่อสีเนื้อแห้งดีแล้ว จึงทำการบังเทปหรืออาจใช้ Masking Sol (น้ำยากันสี) ช่วยทาในส่วนที่เป็นซอกมุม เพื่อเตรียมการพ่นสีในส่วนของชุด.
Step 7.นำสีดำเงาเบอร์2 พ่นในส่วนที่เป็นชุดให้ทั่ว แล้วจึงนำสีน้ำเงินเบอร์ 5 มาพ่นทับ โดยอาจพ่นเน้นมากๆในส่วนที่เป็นสันนูน เพื่อสร้างส่วนที่สว่างที่สุด และพ่นในส่วนซอกลึกให้โดนแค่เล็กน้อย เพื่อสร้างน้ำหนักสีชุดที่เข้มสุด ซึ่งอาจใช้วิธี นำสีดำเงาเบอร์ 2 มาพ่นไล่ตามซอกอีกทีก็ได้ เมื่อสีแห้งแล้ว จึงแกะเทปและ Masking Sol ออก แล้วจึงทาเก็บรายละเอียดของสีชุดที่ไม่เรียบร้อยอีกที.
Step 8. แล้วก็มาถึงขั้นตอนที่ใช้เวลานานสุดคือการทาเก็บรายละเอียดในส่วนของชุด โดยใช้สีทองเบอร์9 และสีเงินเบอร์ 8 ขั้นตอนนนี้ต้องค่อยๆทำ ควรทาสีทองและเงินบางๆ ซ้ำไปมาประมาณ 3 เที่ยว โดยแต่ละเที่ยวต้องรอให้สีแห้งดีก่อนจึงทาซ้ำ ในกรณีที่ทาสีออกมาเกินเส้นที่ต้องการ ให้นำสีน้ำเงินเบอร์ 5 มาผสมกับสีดำเงาเบอร์1 ในอัตราส่วน 80:20 แล้วทาเก็บในส่วนที่เกินอีกครั้ง ในขั้นตอนนี้ต้องหาข้อมูลในส่วนของลายผ้ามาเป็นแบบให้ชัดทุกมุมเท่าที่ทำได้.
ในส่วนของเกราะไหล่จะมีส่วนที่เป็นสีแดง ให้ใช้สีเงินเบอร์ 8 ทาลงไปก่อน เมื่อสีแห้งดีแล้วให้นำสีเคลียร์แดงเบอร์ 47 ทาทับอีกที(อย่าทาทับไปมาหลายที เพราะสีแดงจะไปละลายสีเงินที่เป็นพื้นออกมาผสมกันได้) ในกรณีนี้ถ้าใช้สีเคลียร์แดงอีนาเมลของทามิย่าก็จะสะดวกมากขึ้น เพราะจะไม่ทำละลายสีเงินที่ทาลงไปก่อนออกมา และใช้วิธีเดียวกันตรงจี้สีแดงที่คอ.
ทาเก็บเล็บด้วยสีเนื้อเบอร์ 112 ผสมสีมุกสักเล็กน้อย แล้วอาจจะนำสีมุกมาทาทับเน้นอีกทีก็ได้.
บริเวณปากให้ใช้สีเนื้อเดิมที่เคยใช้เป็นน้ำหนักเข้ม(พ่นตามซอก)ของสีเนื้อ มาผสมสีเคลียร์แดงเบอร์ 47
ทาเกลี่ยให้ได้รูปโดยให้น้ำหนักและมิติที่เหมาะสม แนะว่าอย่าทาเสมอกันทั้งริมฝีปาก อาจเติมสีน้ำเงินเบอร์ 5 เข้าไปเล็กน้อยเพื่อแต้มบริเวณร่องปากด้านในสุด.
To be continued......
หลังจากนั้นใช้สีขาวเบอร์1 ผสมสีให้ใสเล็กน้อยแต้มเพิ่ม
ในบางจุดที่เน้นเป็นจุดสันนูนที่สุดของผม เพื่อให้เป็นสีผมในส่วนที่สว่างที่สุด.
และเช่นเดียวกันผสมสีเดิมที่เป็นสีผมหลักให้เข้มโดยการเติมสีเบอร์11
ลงไปพร้อมแต้มในจุดที่เป็นร่องลึกที่สุด เพื่อที่จะได้เป็นสีผมในมิติที่มีส่วนลึกที่สุด
เมื่อสีแห้วสนิทดีแล้วจึงทำการบังเทปบริเวนผมทั้งหมด เพื่อเตรียมการพ่นสีเนื้อต่อไป.
Step 5. นำสีเนื้อเบอร์ 51 กับสีเนื้อเบอร์ 111 และเคลียร์ส้มเบอร์49 มาผสมกันในอัตราส่วน 30:65:5 และผสมทินเนอร์ให้สีมีลักษณะใสพอสมควร แล้วจึงนำไปพ่นรีดในร่องลึกต่างๆในส่วนที่เป็นเนื้อ เสร็จแล้วจึงพ่นแบบโอเวอร์สเปรย์ทับในส่วนสีเนื้อทั้งหมดอีกครั้ง.
Step 5-1. เติมสีเคลียร์ส้มเบอร์49 ทีละน้อยในสีเนื้อเดิมแล้วทดลองพ่นแบบโอเวอร์สเปรย์คลุมทั่วๆ ในส่วนที่เป็นเนื้อทั้งหมด ทำซ้ำจนสีเนื้อได้น้ำ้หนักจนเป็นที่พอใจ อาจมีการพ่นเน้นเฉพาะในส่วนลึกเพื่อช่วยให้น้ำหนักเข้มชัดขึ้น และอาจพ่นให้โดนในส่วนสันนูนให้น้อยเื่พื่อสร้างน้ำหนักสว่างไปในตัวได้ในขั้นตอนนี้.
Step 6. เมื่อสีเนื้อแห้งดีแล้ว จึงทำการบังเทปหรืออาจใช้ Masking Sol (น้ำยากันสี) ช่วยทาในส่วนที่เป็นซอกมุม เพื่อเตรียมการพ่นสีในส่วนของชุด.
Step 7.นำสีดำเงาเบอร์2 พ่นในส่วนที่เป็นชุดให้ทั่ว แล้วจึงนำสีน้ำเงินเบอร์ 5 มาพ่นทับ โดยอาจพ่นเน้นมากๆในส่วนที่เป็นสันนูน เพื่อสร้างส่วนที่สว่างที่สุด และพ่นในส่วนซอกลึกให้โดนแค่เล็กน้อย เพื่อสร้างน้ำหนักสีชุดที่เข้มสุด ซึ่งอาจใช้วิธี นำสีดำเงาเบอร์ 2 มาพ่นไล่ตามซอกอีกทีก็ได้ เมื่อสีแห้งแล้ว จึงแกะเทปและ Masking Sol ออก แล้วจึงทาเก็บรายละเอียดของสีชุดที่ไม่เรียบร้อยอีกที.
Step 8. แล้วก็มาถึงขั้นตอนที่ใช้เวลานานสุดคือการทาเก็บรายละเอียดในส่วนของชุด โดยใช้สีทองเบอร์9 และสีเงินเบอร์ 8 ขั้นตอนนนี้ต้องค่อยๆทำ ควรทาสีทองและเงินบางๆ ซ้ำไปมาประมาณ 3 เที่ยว โดยแต่ละเที่ยวต้องรอให้สีแห้งดีก่อนจึงทาซ้ำ ในกรณีที่ทาสีออกมาเกินเส้นที่ต้องการ ให้นำสีน้ำเงินเบอร์ 5 มาผสมกับสีดำเงาเบอร์1 ในอัตราส่วน 80:20 แล้วทาเก็บในส่วนที่เกินอีกครั้ง ในขั้นตอนนี้ต้องหาข้อมูลในส่วนของลายผ้ามาเป็นแบบให้ชัดทุกมุมเท่าที่ทำได้.
ในส่วนของเกราะไหล่จะมีส่วนที่เป็นสีแดง ให้ใช้สีเงินเบอร์ 8 ทาลงไปก่อน เมื่อสีแห้งดีแล้วให้นำสีเคลียร์แดงเบอร์ 47 ทาทับอีกที(อย่าทาทับไปมาหลายที เพราะสีแดงจะไปละลายสีเงินที่เป็นพื้นออกมาผสมกันได้) ในกรณีนี้ถ้าใช้สีเคลียร์แดงอีนาเมลของทามิย่าก็จะสะดวกมากขึ้น เพราะจะไม่ทำละลายสีเงินที่ทาลงไปก่อนออกมา และใช้วิธีเดียวกันตรงจี้สีแดงที่คอ.
ทาเก็บเล็บด้วยสีเนื้อเบอร์ 112 ผสมสีมุกสักเล็กน้อย แล้วอาจจะนำสีมุกมาทาทับเน้นอีกทีก็ได้.
บริเวณปากให้ใช้สีเนื้อเดิมที่เคยใช้เป็นน้ำหนักเข้ม(พ่นตามซอก)ของสีเนื้อ มาผสมสีเคลียร์แดงเบอร์ 47
ทาเกลี่ยให้ได้รูปโดยให้น้ำหนักและมิติที่เหมาะสม แนะว่าอย่าทาเสมอกันทั้งริมฝีปาก อาจเติมสีน้ำเงินเบอร์ 5 เข้าไปเล็กน้อยเพื่อแต้มบริเวณร่องปากด้านในสุด.
To be continued......
วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
Lineage II : Dark Elf 1/6 Scale Resin Cast kit (1)
เนื่องจากรับ Order ทำสีมาจากลูกค้าพอดี สำหรับ Model Dark Elf จากเกมส์ Lineage II จึงได้โอกาสนำเสนอวิธีการทำแบบ Step By Step ประเดิมเป็นตัวแรกให้ชาว ThaiModellerGroup ได้ชมครับ.
หลังจากที่ตัดสินใจได้ว่าเลือกทำสไตล์แบบไหนแล้ว ก็พยายามหาข้อมูลให้มากที่สุด ให้ได้ทุกด้านทุกมุมเลยยิ่งดี ในกรณีนี้ผมเลือกทำตามแบบของเจ้าของผู้ผลิตชิ้นงานนี้เลย เพราะโดยส่วนตัวเห็นแล้วสวยถูกใจที่สุด แต่จริงๆแล้วก็ยังเก็บข้อมูลของแบบอื่นไว้ดูเหมือนกันเผื่อว่ามีจุดไหนบางจุดที่ดูดี
จะได้นำมาประยุกต์ใช้.
เริ่มต้นด้วยการหาข้อมูลสำหรับตัวที่จะทำสีก่อน จากรูปจะเห็น 2รูปซ้ายมือบน ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นฝีมือจาก Modeller ชาวยุโรป 2รูปขวามือจะเป็น งาน PVC ทำสีสำเร็จ และ 2รูปล่างจะเป็นงานทำสีจากผู้ผลิตสินค้าชิ้นนี้เอง.
หลังจากที่ตัดสินใจได้ว่าเลือกทำสไตล์แบบไหนแล้ว ก็พยายามหาข้อมูลให้มากที่สุด ให้ได้ทุกด้านทุกมุมเลยยิ่งดี ในกรณีนี้ผมเลือกทำตามแบบของเจ้าของผู้ผลิตชิ้นงานนี้เลย เพราะโดยส่วนตัวเห็นแล้วสวยถูกใจที่สุด แต่จริงๆแล้วก็ยังเก็บข้อมูลของแบบอื่นไว้ดูเหมือนกันเผื่อว่ามีจุดไหนบางจุดที่ดูดี
จะได้นำมาประยุกต์ใช้.
Step 1. เมื่อหาข้อมูลที่ต้องการได้เรียบร้อยแล้วก็เข้าสู่ขั้นตอนการทำโมเดล
ในขั้นแรกต้องตรวจเช็คชิ้นส่วนให้ครบตามใบประกอบที่แนบมา ถ้าสินค้าที่ซื้อไม่มีใบประกอบแนบมาให้ แสดงว่าโอกาสที่ชิ้นส่วนไม่ครบนั้นจะมีสูงทีเดียว ดังนั้นท่านต้องหาข้อมูลเองว่าชิ้นส่วนมีครบหรือไม่ (สินค้าที่ดีควรมีใบประกอบแนบมาด้วยทุกครั้ง) เมื่อทำการตรวจเช็คเรียบร้อยแล้ว ก็นำโมเดลไปล้างน้ำยาล้างจานพร้อมกับทำให้แห้ง.
Step 3. นำชิ้นส่วนที่เป็นส่วนสีเนื้อไปพ่นสีขาวเพื่อรองพื้นเสียก่อน เพราะจะทำให้สีเนื้อที่จะพ่นลงไปในทีหลังจะได้ไม่หมอง โดยพ่นสีขาวให้ทั่วทุกซอกมุมในส่วนที่จะต้องเป็นสีเนื้อ.
To be continued......
ในขั้นแรกต้องตรวจเช็คชิ้นส่วนให้ครบตามใบประกอบที่แนบมา ถ้าสินค้าที่ซื้อไม่มีใบประกอบแนบมาให้ แสดงว่าโอกาสที่ชิ้นส่วนไม่ครบนั้นจะมีสูงทีเดียว ดังนั้นท่านต้องหาข้อมูลเองว่าชิ้นส่วนมีครบหรือไม่ (สินค้าที่ดีควรมีใบประกอบแนบมาด้วยทุกครั้ง) เมื่อทำการตรวจเช็คเรียบร้อยแล้ว ก็นำโมเดลไปล้างน้ำยาล้างจานพร้อมกับทำให้แห้ง.
Step 2. เมื่อชิ้นงานแห้งเรียบร้อยแล้ว จึงทำการฝังแกนหรือเดือยให้ครบทุกชิ้นส่วน ส่วนไหนที่คิดว่าประกอบได้เลยโดยที่ทำสีไม่ลำบาก ก็ประกอบติดกาวได้เลย ดังภาพที่เห็นจะทำการประกอปขาข้างนึงกับลำตัวก่อน เพื่อที่ต้องการให้รอยต่อแนบสนิท แล้วจึงทำการพ่นรองพื้นเพื่อตรวจสอบตำหนิของชิ้นงาน พร้อมลงมือขัดแต่งชิ้นงานให้เรียบร้อย
(โมเดลที่ดีไม่ควรมีตำหนิจำพวกตามดหรือรูฟองอากาศเกิน 10 แห่ง ถ้าเกินกว่านั้นอาจเป็นสินค้ามีตำหนิหรือจัดว่าเป็นสินค้าด้อยคุณภาพ).
(โมเดลที่ดีไม่ควรมีตำหนิจำพวกตามดหรือรูฟองอากาศเกิน 10 แห่ง ถ้าเกินกว่านั้นอาจเป็นสินค้ามีตำหนิหรือจัดว่าเป็นสินค้าด้อยคุณภาพ).
Step 3. นำชิ้นส่วนที่เป็นส่วนสีเนื้อไปพ่นสีขาวเพื่อรองพื้นเสียก่อน เพราะจะทำให้สีเนื้อที่จะพ่นลงไปในทีหลังจะได้ไม่หมอง โดยพ่นสีขาวให้ทั่วทุกซอกมุมในส่วนที่จะต้องเป็นสีเนื้อ.
To be continued......
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)